1.ดอกมะลิมีรสหอมเย็น มีสรรพคุณบำรุงหัวใจ ทำให้ชื่นใจ จิตใจชุมชื่น
แก้อาการอ่อนเพลีย ชูกำลัง (ดอก)
2.ชาวโอรังอัสลี ในรัฐเประ ประเทศมาเลเซีย จะใช้รากนำไปต้ม
แล้วดื่มน้ำกินเป็นยาแก้เบาหวาน (ราก)
3.หากมีอาการนอนไม่หลับ ให้ใช้รากแห้งประมาณ 1-1.5 กรัม นำมาฝนกับน้ำรับประทาน (ราก)
4.ดอกสดนำมาตำให้ละเอียดใช้พอกขมับ จะช่วยแก้อาการปวดศีรษะได้
(ดอก)หรือจะใช้รากสดประมาณ 1-1.5 กรัม
นำมาต้มกับน้ำกินเป็นยาแก้ปวดหัวก็ได้ (ราก)
5.ช่วยแก้เจ็บตา (ดอก)
6.รากสดใช้ทำเป็นยาล้างตาแก้เยื่อตาอักเสบ
(ราก)ใบและรากใช้ทำเป็นยาหยอดตา (ใบ,ราก)บ้างว่าใช้ดอกมะลิสดที่ล้างน้ำสะอาด
นำมาต้มกับน้ำจนเดือนสักครู่ แล้วนำน้ำที่ได้มาใช้ล้างตาแก้ตาแดง เยื่อตาขาวอักเสบ
(ดอก)
7.ช่วยแก้อาการเจ็บหู (ดอกและใบ)
8.ช่วยแก้อาการปวดฟัน
ด้วยการใช้รากสดนำมาทุบให้แหลกคั่วกับเหล้าจนร้อน ใช้พอกบริเวณที่ปวด (ราก)
หากปวดฟันผุ ให้ใช้รากมะลิตากแห้งยำมาบดให้เป็นผง ผสมกับไข่แดงที่ต้มสุกแล้วจนได้ยาที่เหนียวข้น
ใช้ใส่ในรูฟันผุ (ราก)
9.ดอกและใบมีรสเผ็ดชุ่ม เป็นยาเย็น ช่วยดับพิษร้อน ถอนพิษไข้
ใช้เป็นยาแก้ร้อนในกระหายน้ำ ขับเหงื่อขับความชื้น แก้ไข้หวัดแดด (ดอกและใบ)
รากใช้ฝนกับน้ำเป็นยาแก้ร้อนใน (ราก)
10.ใช้ใบสดประมาณ 3-6 กรัม นำมาต้มกับน้ำกินเป็นยาแก้ไข้
(ใบ)
11.ตำรับยาแก้หวัดแดด มีไข้ ให้ใช้ดอกมะลิแห้ง 3 กรัม, ใบชาเขียว 3 กรัม,
เมล็ดเฉาก๊วย 9 กรัม นำมารวมกันต้มกับน้ำกิน
(ดอก)
12.ดอกสดนำมาตำใส่พิมเสน ใช้สุมหัวเด็กแก้ซาง แก้หวัด แก้ตัวร้อน
(ดอก)
13.ช่วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน ด้วยการใช้รากสดประมาณ 1-1.5 กรัม นำมาต้มกับน้ำกิน (ราก)
14.ดอกแก่ใช้เข้ายาหอมเป็นยาแก้หืด (ดอก)
15.ช่วยแก้หอบหืด หลอดลมอักเสบ ด้วยการใช้รากสด 1-1.5 กรัม นำมาต้มกับน้ำกิน (ราก)
16.รากใช้เป็นยาแก้โรคเกี่ยวกับทรวงอก (ราก)
17.ดอกสดนำมาตำให้ละเอียดใช้พอกหรือเช็ดบริเวณเต้านมเพื่อให้หยุดการหลั่งของน้ำนมได้
(ดอก)
18.ใบสดประมาณ 3-6 กรัม
นำมาต้มกับน้ำกินเป็นยาแก้ปวดท้อง ท้องเสีย ท้องอืดแน่น (ใบ)หรือจะใช้ดอกมะลิแห้ง 3 กรัม, ใบชาเขียว 3 กรัม,
เมล็ดเฉาก๊วย 9 กรัม
นำมารวมกันต้มกับน้ำกินเป็นยาแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ท้องเสีย (ดอก)
19.ช่วยแก้อาการเสียดท้อง (ราก)
20.ใช้ดอกสดหรือดอกแห้งประมาณ 1.5-3 กรัม
นำมาต้มกับน้ำกินเป็นยาแก้โรคบิด แก้อาการปวดท้อง (ดอกและใบ)
21.ชาวโอรังอัสลี ในรัฐเประ ประเทศมาเลเซีย จะนำใบอ่อนใสแช่ในน้ำเย็น
ใช้ดื่มกินแก้นิ่วในถุงน้ำดี (ใบ)
22.ช่วยบำรุงครรภ์รักษา (ดอก)
23.ช่วยขับประจำเดือนของสตรี (ราก)
24.ดอกสดนำมาตำใช้เป็นยาทารักษาแผลเรื้อรัง ทาฝีหนอง ผิวหนังผื่นคัน
เยื่อตาอักเสบ และแก้ปวดหูชั้นกลาง (ดอก)ช่วยแก้ฝีหนอง (ดอกและใบ)
25.ใบสดนำมาตำใช้เป็นยาแก้โรคผิวหนัง แผลโรคผิวหนังเรื้อรัง แก้ฟกช้ำ
และบาดแผล (ใบ)หรือใช้ใบสดนำมาตำให้ละเอียดผสมกับน้ำมันมะพร้าวใหม่ๆ นำไปลนไฟ
ใช้ทารักษาแผล ฝีพุพอง (ใบ)
26.รากมีรสเผ็ดขม เป็นยาเย็น มีพิษเล็กน้อย ใช้เป็นยาชา ยาแก้ปวด
ให้ใช้รากสดประมาณ 1-1.5 กรัม นำมาต้มกับน้ำกินเป็นยาแก้ปวด (ราก)
27.ใช้แก้กระดูกร้าว ฟกช้ำ ให้ใช้รากแห้ง 1.5 กรัม นำมาฝนกับเหล้ากิน (ราก)หรือจะใช้รากสดตำพอกแก้ฟกช้ำ
เคล็ดขัดยอกเนื่องจากการหกล้ม (ราก)
28.ใบมีสรรพคุณช่วยขับน้ำนมของสตรี (ใบ)
29.ตำรายาไทยจะใช้ดอกมะลิแห้งปรุงเป็นยาหอม
โดยจัดให้ดอกมะลิอยู่ในพิกัดเกสรทั้ง 5, พิกัดเกสรทั้ง 7, พิกัดเกสรทั้ง 9 เป็นตำรับยาที่มีสรรพคุณแก้ไข้
ช่วยทำให้จิตใจชุ่มชื่น (ดอก)
30.นอกจากนี้ยังมีการนำดอกมะลิผสมเข้ายาหอมที่มีสรรพคุณบำรุงหัวใจ
ทำให้จิตใจชุ่มชื่น แก้ลมวิงเวียน เช่น ในตำรับยาหอมเทพจิต ยาหอมทิพโอสถ
ยาหอมนวโกฐ และยาหอมอินทจักร์ ซึ่งมีส่วนประกอบหลักเป็นดอกมะลิ
และยังใช้เป็นส่วนผสมในตำรับยาแก้ไข้มิรู้จักสติสมปฤดี ยาประสะจันทน์แดง
ยามหานิลแท่งทอง เป็นต้น (ดอก)
หมายเหตุ : การใช้ตาม
ดอกและใบแห้ง ใช้ครั้งละ 3-6 กรัม นำมาต้มกับน้ำกิน
ถ้าเป็นรากแห้ง ให้ใช้ครั้งละ 1-1.5 กรัม นำมาฝนกับน้ำกิน
หรือใช้ 3-6 กรัม นำมาต้มกับน้ำกิน ส่วนใช้ภายนอกให้ใช้รากสดนำมาตำพอกแผลตามที่ต้องการ