1.ดอกมะลิ มีน้ำมันระเหยประมาณ 0.2-0.3%
ซึ่งในน้ำมันระเหยจากดอกมะลิพบสาร Benzyl alcohol, Benzyl alcohol ester,
Benzyl acetate, Cadinene, Caryophyllene, Geraniol, hexenyl benzoate, Jasmone,
Jasmine lactone, Linalool (สารที่ทำให้ดอกมะลิลามีกลิ่น),
Methyl benzoate, Methyl jasmonte, และพบสาร Pipid, Linalyl
benzoate ส่วนในใบพบสาร Jasmine, Sambacin และรากพบสาร
Alkaloids, Sterols เป็นต้น
2.ใบและลำต้นของมะลิลา พบสารสำคัญหลายกลุ่ม เช่น flavonoid,
triterpenoid, irridoid glycoside เช่น sambacin,
sambacoside A, E, F, jasminin, benzyl acetate, cis-linalool oxide, d-fenchene,
quercetin, isoquercetin, limonene, linalool, methyl benzoate,
kaempferol-3-rhamnooglycoside, methyl salicylate, myrcene, rutin, trans-3-hexenyl
butyrate
3.สาร jasmolactone B และ D ที่แยกได้จากดอกมะลิพวงออกฤทธิ์ขยายหลอดเลือดโคโรนารี
(coronary vasodilating) และกระตุ้นหัวใจ (cardiotropic
activities) จึงอาจสนับสนุนการใช้ดอกมะลิในตำรับยาหอมในการรักษาอาการวิงเวียน
เป็นลม ที่มีการใช้ในยาไทยมาแต่โบราณ
5.น้ำคั้นที่ได้จากรากสดของต้นมะลิ เมื่อนำมาทดลองกับสัตว์ทดลอง เช่น
การนำมาฉีดเข้าทางช่องท้องของหนูใหญ่ หนูตะเภา สุนัข กระต่าย กบ และนกพิราบ
ในปริมาณที่ไม่เท่ากัน พบว่าจะทำให้การเต้นหัวใจของ6.กระต่ายและกบเต้นช้าลง
ทำให้กล้ามเนื้อของกบคลายตัว ทำให้หลอดเลือดดำของกระต่ายขยายตัวขึ้น
และทำให้มีฤทธิ์ในการกดประสาทของกระต่าย ทำให้กระต่ายเคลื่อนไหวได้ช้าลง
7.เมื่อนำรากที่สัดด้วยน้ำมาทดลองกับหัวใจของกบและกระต่ายที่อยู่นอกตัว
พบว่า จะทำให้หัวใจเต้นช้าลง
และเมื่อนำมาทดลองกับมดลูกที่อยู่นอกตัวของหนูและกระต่ายทดลอง จะพบว่ามีฤทธิ์กระตุ้นมดลูกที่ตั้งท้องและไม่ได้ตั้งท้อง
ให้เกิดการบีบตัวแรงขึ้น
8.เมื่อนำสารสกัดจากรากของต้นมะลิด้วยแอลกอฮอล์หรือน้ำ ในปริมาณ 1-8 กรัม ต่อ 1 กิโลกรัม
นำมาฉีดข้าทางช่องท้องของสัตว์ทดลอง เช่น หนู กระต่าย กบ สุนัข
พบว่าจะทำให้สัตว์ทดลองมีอาการหลับได้ดี ทำให้หลับสบาย และช่วยทำให้สงบนิ่ง
แต่ถ้าใช้สารนี้ในปริมาณมากขึ้น แล้วนำมาฉีดให้กบจะทำให้กบเป็นอัมพาตทั้งตัว
จึงแสดงให้เห็นว่าสารดังกล่าวมีฤทธิ์ในการยับยั้งประสาทส่วนกลางของสัตว์
9.น้ำมันระเหยจากดอกมะลิลา มีผลช่วยทำให้ระยะเวลาการหลับของยา pentobarbital สั้นลง โดยไปการกระตุ้นประสาทสัมผัสกลิ่น และสารสำคัญคือ phytol
10.กลิ่นชามะลิที่มีสารสำคัญ (R)-(-)-linalool พบว่าสามารถช่วยทำให้สงบในอาสาสมัคร
24 คน
11.จากการทดสอบตำรับยาที่มีน้ำมันหอมระเหยในตำรับ 3-20% (โดยมีน้ำมันหอมระเหยจากมะลิคิดเป็น 50-90%) พบว่ามีฤทธิ์กระต้นความรู้สึกทางเพศ
12.สารสกัดเมทานอลจากดอกมะลิลาแห้งมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย Streptococcus
sanguinis ที่เป็นสาเหตุให้เกิดฟันผุ
โดยมีค่าความเข้มข้นต่ำสุดในการยับยั้งเชื้อ (MIC) เท่ากับ 1
mg/ml ดังนั้นสารสกัดดังกล่าวจึงมีผลต่อสุขภาพในช่องปาก
13.สาร benzyl benzoate, caryophyllene oxide, farnesyl acetate, methyl
isoeugenol จากดอกมะลิลาออกฤทธิ์ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย Pseudomonas
aeruginosa และเชื้อรา Aspergillus niger
14.น้ำมันหอมระเหยจากดอกมะลิลา มีฤทธิ์ในการไล่หมัดได้ดีกว่าสารเคมี diethyltoluamide
15.จากการทดสอบความเป็นพิษ พบว่าสารสกัดจากดอกมะลาด้วยน้ำและแอลกอฮอล์
ในอัตราส่วน 1:1 ในขนาดเทียบเท่ากับยาผง 10
กรัมต่อกิโลกรัม ไม่เป็นพิษต่อหนูถีบจักร
ไม่ว่าจะให้ด้วยการฉีดเข้าใต้ผิวหนังหรือให้ด้วยการป้อน
ส่วนสารสกัดจากส่วนที่อยู่เหนือดินของต้นด้วยน้ำและแอลกอฮอล์ ในอัตราส่วน 1:1 เมื่อทำการฉีดเข้าทางช่องท้องของหนูถีบจักร
พบว่าในขนาดที่ทำให้สัตว์ทดลองตายครึ่งหนึ่งมีค่าเท่ากับ 1
กรัมต่อกิโลกรัม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น